แน่นอนว่าคนที่เคยขึ้นเครื่องบินจะต้องโดนตรวจ โดนสแกนร่างกายและสิ่งของทุกครั้งก่อนขึ้นเครื่อง เพื่อความปลอดภัยของทุกๆคน และไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีของต้องห้าม ที่แต่ละสนามบินต้องเข้มงวดในการตรวจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเครื่องบินนอกประเทศที่จะโดนยึดของกันบ่อย วันนี้ ที่นี่ดอทคอม จึงได้นำ 10 ของสุดแปลกที่เคยมีคนพยายามเอาขึ้นเครื่อง จากการสำรวจความคิดเห็นและจัดอันดับของ toptenthailand มาให้ได้รู้กันว่ามีอะไรบ้าง แต่ว่าโชคดีที่โดนตรวจได้ทัน ไม่งั้นคงซวยกันไปทั้งลำ
คงไม่แปลกถ้ามีคนเอาหนอนอบแห้งกลับไปกินที่บ้าน แต่!! ชายคนนี้ที่เดินทางมาจากบูร์กินาฟาโซ เพื่อจะกลับไปยังอังกฤษบ้านของเขา ได้นำกระเป๋าเดินทางอันหนักอึ้งกว่า 90 กิโลกรัมถึง 4 ใบ ที่ด้านในอัดแน่นไปด้วยหนอนอบแห้ง ที่ต่อให้เขาจะให้เหตุผลว่ามันคือจานโปรดของเขาจนต้องแบกเอากลับมากินที่บ้าน แต่คงเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น เพราะเจ้าหน้าที่เอาแต่ส่ายหัวอย่างเดียว
ในปี 2009 ตัวแทนศุลกากรสนามบินในรัฐนิวเจอร์ซีย์ ได้ตรวจพบสิ่งมีชีวิตที่สร้างความขนลุกให้กับชาวมะกันอย่างมาก นั่นคือเจ้าแมลง Hallodapus!! ที่เป็นศัตรูพืชตัวฉกาจ ที่ติดมากับใบโหระพาที่นำเข้าจากอิสราเอล ทางกรมวิชาการเกษตรของสหรัฐฯ ได้ประกาศว่า นี่เป็นครั้งแรกที่พบศัตรูพืชจากการขนส่งในอเมริกา และหากไม่มีการตรวจพบซะก่อน อาจจะมีการระบาดที่รุนแรงต่ออุตสาหกรรมการเกษตรของสหรัฐฯ ที่จะสร้างความเสียหายกว่าล้านล้านดอลลาร์เลยก็ว่าได้
ในสายตาของฝรั่ง เมืองไทยถือเป็นแหล่งอบายมุขชั้นยอด เพราะดูจากของที่ติดไม้ติดมือฝรั่งคนหนึ่งกลับไป ที่ยัดไว้ข้างในรูปปั้นแมวที่ดูยังไงก็ไม่มีพิษมีภัย แต่ด้วยความที่น้ำหนักของมันผิดปกติ ทางเจ้าหน้าที่เลยขอตรวจดู ตรวจไปตรวจมาเลยได้พบกับฝิ่นคุณภาพดีมูลค่ามหาศาลที่อัดไว้แน่นอยู่ภายในตัวรูปปั้น
ที่สนามบินแห่งหนึ่ง ในเบอร์ลิงตัน มีสาวน้อยคนหนึ่งถูกควบคุมตัวพร้อมกับลิปสติกแท่งเล็กๆ ที่ดูยังไงก็ไม่น่าแปลก เพราะเป็นปกติที่ผู้หญิงจะพกลิปสติก แต่สิ่งนั้นมันไม่ใช่ลิปสติก แต่เป็นปืนไฟฟ้า!! ที่สามารถช็อตคนด้วยความแรงถึง 3.5 แสนโวลต์ ที่เธอบอกว่าได้มาผ่านการซื้อทางอินเตอร์เน็ต
ขอบคุณรูปจาก http://www.protesec.com/tienda/product_info.php?products_id=156
คงไม่มีใครอยากขึ้นเครื่องบินไปนั่งข้างๆเด็กหญิงวัย 17 ที่มีกิ้งก่าอยู่บนหัว แต่เด็กคนนี้ก็เกือบจะหลอกเจ้าหน้าที่ได้สำเร็จด้วยการใส่หมวกคลุมเจ้าตัวเขียวไว้ พอเปิดออกคนอื่นก็ต่างคิดว่ามันคือกิ๊บติดผม แต่ไปๆมาๆกิ๊บของเธอกลับกระพริบตา และเคลื่อนไหวได้!! ทำให้เธอต้องเดินทางคนเดียวแบบเหงาๆ เพราะเพื่อนยากต้องอยู่ที่สนามบิน
ขอบคุณรูปจาก http://www.mirrorwild.com/archives/5250/ciangmai-doiin-42
อ่านกันไม่ผิดหรอกค่ะ มันคือนกพิราบในถุงน่องจริงๆ เพราะจริงๆการนำสัตว์ออกนอกประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาตถือว่าผิดกฎหมาย แต่ชายชาวออสเตรเลียนี้คิดว่าแผนเด็ดของตน ที่เอานกพิราบ 2 ตัวจากดูไบใสยัดไว้ในถุงน่องสีดำจะไม่มีใครสงสัย แต่ประเทศนี้ดันเข้มงวดในเรื่องการลักลอบฆ่าสัตว์ซะนี่ ก็เลยโดนจับไปเลยปริยาย
ขอบคุณรูปจาก http://www.thairacingpigeon.com/forums/showthread.php?t=165&page=4
ที่สนามบินจอห์นเอฟเคนเนดี้ ชายคนหนึ่งถูกควบคุมตัวไว้ เพราะในกระเป๋าของเค้ามีช็อกโกแลตมากเกินความจำเป็น และด้วยความที่เป็นคนผอมบางดูยังไงก็ไม่น่าจะใช่คนรักช็อกโกแลตขนาดนั้น เมื่อตรวจสอบอย่างละเอียดจึงรู้ว่าจริงๆแล้วมันคือเฮโรอีนที่ผสมด้วยช็อกโกแลตที่มีมูลค่ากว่า 400,000 เหรียญ!!
ครั้งหนึ่งเจ้าหน้าที่ได้สแกนกระเป๋าของสาวสวยคนหนึ่งและพบว่าหวีของเธอมีรูปร่างแปลกๆ จึงได้ขอตรวจสอบดูจึงได้พบว่าเธอได้ซ่อนกริชเซรามิกไว้ในแปรง!! เธอได้บอกกับเจ้าหน้าที่ว่าเธอซื้อมาเพราะความชอบส่วนตัว จึงได้ถูกปล่อยตัวออกมาให้ขึ้นเครื่องได้ แต่แน่นอนว่าหวีของเธอต้องถูกยึดไว้
นักชีววิทยารายนี้ถูกคุมตัวพร้อมสัมภาระชิ้นพิเศษที่บอกใครก็ต้องทึ่ง เพราะมันคือ "หัวแมวน้ำฮาร์เบอร์" !! ซึ่งเค้าได้อธิบายกับทางสนามบินว่าเค้าได้ตัดหัวมันหลังจากที่มันเสียชีวิตไปแล้ว เพื่อที่จะนำไปศึกษาต่อ และยังยืนยันว่าเค้าไม่ใช่คนล่า ในที่สุดเจ้าหน้าที่จึงได้ปล่อยตัวเค้าไป แบบไม่มีหัวแมวน้ำติดตัว
ขอบคุณรูปจาก http://scbblog.com/?p=7267
คงไม่แปลกที่ใครๆจะขนศพทางเครื่องบิน แต่ต้องเป็นการขนส่งคนละแบบกับคนแน่นอน!! แต่เรื่องนี้ก็เกิดขึ้นเมื่อหญิงแก่คนนึง เช็คอินให้กับสามีที่เป็น "ศพ" ของเธอ และบอกกับเจ้าหน้าที่ว่าเขากำลังหลับเท่านั้น ด้วยความที่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ใช่คนโง่ที่จะแยกไม่ออกว่าไหนคือคนเป็น คนตาย เธอก็เลยต้องเสียค่าส่งสามีเธอไปที่ท้องเครื่องตามระเบียบ
ขอบคุณรูปจาก http://news.th.msn.com
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้ กระทู้เด็ดน่าแชร์
